Cosmetic Dentistry

ทันตกรรมเพื่อความสวยงาม

วีเนียร์ (Veneer) คือฟันปลอมชนิดหนึ่ง แต่มีความแตกต่างจากฟันปลอมที่เรารู้จักตรงที่วีเนียร์นั้นไม่ได้ครอบทั้งฟันแต่จะเป็นการนำวัสดุที่มีหน้าตาคล้ายฟันมาเคลือบหรือแปะที่หน้าฟันโดยวีเนียร์นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาความสวยงามของฟันและช่วยป้องกันการทำร้ายของผิวฟันที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสามารถช่วยให้คนที่มีฟันห่าง, ฟันเล็ก, ฟันบิ่น, ฟันเกเล็กน้อย, ฟันที่มีสีไม่เสมอกัน หรือฟันเหลืองมากๆ ก็กลับมาสวยงามได้



วัสดุของการทำวีเนียร์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  1. คอมโพสิต (COMPOSITE) จะเป็นวัสดุเดียวกับวัสดุอุดฟัน
  2. พลอสเลน (PORCELAIN) เป็นเซรามิกชนิดหนึ่ง

ซึ่งทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันดังนี้
คอมโพสิต (COMPOSITE) วีเนียร์  เนื่องจากเป็นวัสดุอุดฟัน จึงมีราคาที่ถูกกว่า โดยวัสดุชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าแบบพลอสเลน จึงทำให้มีโอกาสสึกกร่อนและสีสามารถดรอปลงได้ เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานึง

พลอสเลน (PORCELAIN) วีเนียร์   วัสดุที่เมื่อทำแล้วจะมีความมันวาวและดูเป็นธรรมชาติกว่า ทั้งความทนทานและสีของเนื้อฟันจะไม่มีการดรอปลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีราคาสูงกว่า

วีเนียร์ถือเป็นทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • ฟันบิ่น
  • ฟันหักบางส่วน
  • ฟันแตก
  • ฟันเหลือง
  • ฟันมีขนาดเล็ก หรือขนาดไม่เท่ากัน
  • ฟันเรียงตัวไม่สวย

โดยทั้งหมดจะสามารถทำได้หรือไม่นั้นต้องเข้ามาพบกับทีมทันตแพทย์ เพื่อปรึกษาโดยตรงกับทันตแพทย์ก่อน

ประโยชน์ของการทำวีเนียร์(Veneer)

  • วีเนียร์(Veneer) มีความทนทานและยากต่อการติดคราบสีที่เกิดจากเครื่องดื่ม อาหาร และบุหรี่
  • ไม่สามารถผุได้เหมือนฟันธรรมชาติ
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสวยงามแก่ฟันและรอยยิ้มของผู้รับบริการ
  • วัสดุที่ใช้ทำมีลักษณะและใสเหมือนฟันธรรมชาติ
  • สามารถช่วยปิดช่องว่างระหว่างฟันในกรณีฟันห่าง
  • สามารถช่วยปรับแต่งรูปร่างของฟันให้มีความสวยงามขึ้น
  • ช่วยซ่อมแซมรูปร่างของฟันที่สึกกร่อนและถูกทำลาย
  • สามารถปกปิดสีฟันที่ผิดปกติหรือไม่สวยได้

 วิธีการดูแลรักษาหลังทำวีเนียร์(Veneer)

  • หมั่นแปรงฟัน
  • วัสดุที่ทำวีเนียร์นั้นไม่ผุ แต่สำหรับฟันจริงยังมีโอกาสผุ ซึ่งย่อมจะส่งผลต่อวีเนียร์ที่ติดฟันอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่ดูแลช่องปากให้ดี โรคเหงือกก็ยังถามหาอีกต่างหาก สำหรับฟันที่ทำวีเนียร์มา ลองใช้แปรงสีฟันขนนุ่มพิเศษหรือแปรงไฟฟ้าในการทำความสะอาดฟัน
  • ขัดฟันเบาๆ ระวังวีเนียร์แตก ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีการแปรงฟันและขัดฟันกับคุณอยู่แล้ว แต่เราอยากย้ำอีกทีว่า การแปรง ขัด หรือกดน้ำหนักลงไปที่วีเนียร์มากเกินไปจะทำให้ชิ้นเซรามิกเสียหายได้ คุณควรทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างนุ่มนวล
  • หมั่นไปตรวจสุขภาพช่องปาก  ฟัน และวีเนียร์กับทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อดูว่าวีเนียร์ของคุณต้องมีการทำความสะอาดหรือปรับแต่งใดๆ หรือไม่ การมีวินัยแบบนี้จะช่วยให้วีเนียร์มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน
  • หลีกเลี่ยงบุหรี่และยาสูบต่างๆ เพราะสารนิโคตินจะทำให้วีเนียร์เกิดคราบเหลืองได้ง่ายมากๆ แน่นอนว่าการจะทำให้คราบนี้ออกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

ศาสตร์แขนงหนึ่งที่ช่วยในการทดแทนฟันที่สูญเสียไป หรือช่วยในการแก้ไขปัญหาฟันที่เปราะบางหรือแตกหักไป ซึ่งมีวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

  • ครอบฟัน
  • สะพานฟัน
  • ฟันปลอม

ครอบฟัน
การทำครอบฟันเป็นการบูรณะและปกป้องฟันที่ได้รับความเสียหาย แตกหัก หรือได้ผ่านการรักษารากฟัน โดยทันตแพทย์จะทำการครอบฟันซี่นั้นด้วยวัสดุประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ฟันซี่นั้นมีรูปร่างและประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีดังเดิม

ประโยชน์ของครอบฟันมี ดังนี้

  • ช่วยปกป้องฟันที่อ่อนแอ เนื่องจากแตก หัก บิ่น มีการผุมาก หรือได้รับการรักษารากฟัน และช่วยให้มีความแข็งแรงดังเดิม
  • ช่วยป้องกันฟันที่ได้รับการครอบจากการเกิดฟันผุ
  • ช่วยปกปิดฟันซี่เดิมที่ไม่สวยงาม ด้วยครอบฟันที่มีรูปร่างและสีสรรที่สวยตามที่ต้องการ
  • ช่วยให้สามารถรักษาตำแหน่งฟันและประสิทธิภาพการทำงานให้เหมือนดังเดิม
  • ช่วยบูรณะฟันที่มีรูผุใหญ่ หรือมีวัสดุอุดเดิมที่ใหญ่เกินไปได้
  • เป็นองค์ประกอบในการทำสะพานฟัน
  • ช่วยบูรณะและการคงสภาพการสบฟันของผู้ป่วยตามธรรมชาติ
  • เป็นองค์ประกอบในการปลูกรากฟันเทียมไททาเนียม
  • ช่วยให้มีรอยยิ้มที่สวยงาม

ประเภทของครอบฟัน


ครอบฟันคอมโพสิท (Composite crown) คือครอบฟันที่ถูกใช้เป็นครอบฟันชั่วคราว มากกว่าเป็นครอบฟันถาวร เพราะเป็นครอบฟันที่สามารถทำเสร็จได้เร็ว แต่ครอบฟันมีความแข็งแรงน้อย และทนทานต่อการใช้งาน และการเปลี่ยนสีของตัววัสดุน้อยกว่าครอบฟันชนิดอื่นๆ ที่กล่าวมา
ครอบฟันแบบโลหะ (Metal Crown)  ครอบฟันแบบโลหะล้วนนั้นจะมี่ความแข็งแรงและทนทานมากที่สุด เนื่องจากไม่มีการบิ่นหรือ แตกเหมือนวัสดุเซรามิก
ครอบฟันโลหะเคลือบพอร์ซเลน (Porcelain fused to metal crown) คือครอบฟันชนิดที่มีส่วนของโลหะเป็นฐานอยู่ด้านใน และเคลือบด้วยชั้นของพอร์สเลน จึงทำให้ครอบฟันชนิดนี้ยังคงมีความแข็งแรง และมีความสวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติ
ครอบฟันแบบเซรามิกล้วน (All Ceramic) มีสีสันที่เหมือนฟันจริงตามธรรมชาติ โดยทันตแพทย์มักจะแนะนำให้ผู้เข้ารับบริการเลือกใช้ครอบฟันแบบเซรามิกล้วนในการทดแทนฟันหน้า ซึ่งครอบฟันแบบเซรามิกล้วนนั้นจะมีความใส สวยงาม เหมือนฟันตามธรรมชาติ

ฟันปลอม

ฟันที่ถูกทำขึ้นโดยทันตแพทย์เพื่อใส่ทดแทนฟันธรรมชาติและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่สูญเสียฟันให้ดีขึ้น ทำให้สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจ สวยงาม และเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุผลที่ต้องใส่ฟันปลอม

  1. ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติ โดยเฉพาะในฟันหน้า
  2. ช่วยในการบดเคี้ยวทำให้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป
  3. ช่วยป้องกันการเกิดฟันที่อยู่ข้างเคียงล้มเอียงหรือฟันคู่สบยื่นยาวเข้ามาหาช่องว่างที่สูญเสียฟัน

ฟันปลอมชนิดถอดได้

คือ ฟันปลอมที่ทำขึ้นให้กับผู้ที่ยังมีฟันธรรมชาติหลงเหลืออยู่ เป็นการใส่ฟันเพียงบางส่วน ถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้  แบบถอดได้แบ่งได้ดังนี้  ฟันปลอมโครงโลหะ.   ฟันปลอมโครงอคริลิก  ฟันปลอมถอดได้ทั้งปาก

ข้อดี

  1. ช่วยให้ผู้ที่ใส่สามารถดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย
  2. ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้

ข้อเสีย

  1. เกิดความรำคาญในขณะพูดหรือการเคี้ยวอาหาร
  2. ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวจะต่ำกว่าฟันปลอมชนิดอื่น
  3. ไม่สวยงามอาจจะมองเห็นตะขอที่ใช้เกี่ยว

ฟันปลอมชนิดติดแน่น

เป็นฟันปลอมถาวรที่ยึดแน่นในช่องปากโดยอาศัยฟันธรรมชาติซี่ที่อยู่ข้างเคียงกับช่องว่างเป็นหลักในการยึดฟันปลอม ฟันปลอมชนิดนี้ผู้ที่ใส่ไม่สามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้   

ข้อดี

  1. ฟันปลอมติดแน่นจะมีลักษณะ และขนาดเหมือนฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมถอดได้ จึงทำให้เรารู้สึกสบายกว่า ไม่มีส่วนของเหงือกปลอม หรือตะขอที่เกะกะ
  2. การใช้งาน ประสิทธิภาพดี แข็งแรง สวยงาม

ข้อเสีย

  1. ต้องมีการกรอฟันข้างเคียงเพื่อยึดฟันปลอม ทำให้สูญเสียเนื้อฟัน
  2. ถอดออกมาล้างทำความสะอาดไม่ได้ ติดอยู่ในปากของเราเลย หากเราแปรงฟันทำความสะอาดไม่ดีอาจทำให้    ฟันข้างเคียงเสียหายไปได้ เป็นโรคเหงือก หรือฟันผุได้ง่าย
  3. ราคาสูงกว่าแบบถอดได้

 

ฟันเปลี่ยนสีเพราะอะไร ?
ฟันที่เปลี่ยนสี เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ สาเหตุจากภายนอกตัวฟัน (Extrinsic) เช่น สีจากอาหาร เครื่องดื่ม บุหรี่ เป็นต้น และ สาเหตุจากภายในตัวฟัน(Intrinsic) เช่น การสะสมสารมีสีข้างในเนื้อฟันขณะสร้างฟัน หรือในกรณีฟันตาย เป็นต้น ดังนั้น การฟอกสีฟันจึงมีด้วยกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับต้นเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีนั้น

บริการฟอกสีฟัน 3 วิธี

In-office Power Bleaching
การฟอกสีฟันที่ทำให้โดยทันตแพทย์ในคลินิก ใช้เจลฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง โดยเจลฟอกสีฟันของ ZOOM ถูกออกแบบให้เจลออกฤทธิ์ได้อย่างอ่อนโยน ด้วยกระบวนการทำงานที่จะค่อยๆแทรกซึมลงสู่ชั้นผิวฟัน ในเจลฟอกสีฟันของ ZOOM จะมีสาร Hydrogen Peroxide แตกตัว Hydrogen จะเข้าสู่ชั้นผิวโดยจะไม่ทำลายโครงสร้างของฟันธรรมชาติ  อีกทั้งยังพบว่าแสงที่ใช้ในการฟอกสีฟันของ ZOOM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เจลฟอกสีฟัน และสามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถึง 8 เฉดสี โดยเครื่องสามารถปรับระดับความเข้มของแสงหลากหลายเฉดสีได้เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะฟันของผู้ป่วยแต่ละคน จนทำให้ได้ฟันท่ขาวขึ้น ใช้ระยะเวลาเพียง 45 นาที เสียวฟันน้อยกว่าระบบอื่น อีกทั้ง ฟันยังคงความขาวได้นานกว่าการฟอกสีฟันด้วยระบบอื่น
At-home Bleaching
การฟอกสีฟันที่ให้นำกลับไปทำเองที่บ้าน คือ กระบวนการฟอกสีฟันขาว โดยการใส่เจลที่มีคุณสมบัติฟอกสีฟัน ลงใน Tray ที่พิมพ์ปากของคุณไว้ แล้วนำไปสวมไว้สักระยะหนึ่งด้วยตัวคุณเองที่บ้าน ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของทันตแพทย์
กระบวนการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้านมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่ใส่เจลฟอกสีฟันลงบท Tray ของตนเอง จากนั้นสวมทิ้งไว้ ตัวยาในเจลจะแตกตัวให้สาร O ion ที่สามารถแทรกซึมผ่านเข้าชั้น Dentin และ Enamel ทำปฏิกิริยากับสารที่มีในเนื้อฟัน ทำให้โมเลกุลของสีแตกออก สีจึงจางหายไปโดยไม่มีอันตรายต่อตัวฟัน
In-office assisted Bleaching
เป็นการฟอกสีฟันที่ทำร่วมกันระหว่างการฟอกสีฟันที่คลินิก และการนำชุดฟอกสีฟันกลับไปทำที่บ้าน โดยทำในกรณีที่สีเริ่มต้นของฟันเข้มมาก โดยจะทำที่คลินิกก่อน จากนั้นให้กลับไปทำต่อเองที่บ้าน  และในกรณีที่ต้องการ Touch  Up เพื่อให้ฟันของคุณขาวอยู่เสมอด้วย DayWhite หรือ NiteWhite ก็จะยิ่งทำให้ฟันของคุณขาวตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หลังฟอกแล้วผลจะอยู่ได้นาน ตราบเท่าที่คุณคอยดูแลฟันเป็นอย่างดี และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์

การฟอกฟันขาว ด้วย Zoom!

ZOOM! เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการฟอกสีฟัน โดยใช้เทคโนโลยี LED ที่สามารถปรับความเข้มข้นของแสงได้ 3 ระดับตามความเหมาะสม ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การฟอกสีฟันระบบ ZOOM! เป็นระบบการฟอกสีฟันที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นในทันทีภายใน 45 นาทีเท่านั้นเอง

การฟอกสีฟันด้วยระบบ “ซูม แอดวานซ์พาวเวอร์” เป็นระบบฟอกสีฟันที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์แล้วว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลเร็ว และขาวนาน เมื่อเทียบกับวิธีการฟอกสีฟันแบบอื่น จึงเหมาะมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

ขั้นตอนการทำงานของ Zoom! เริ่มต้นโดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ปกปิดผิวหนังรอบปาก ตลอดจนเหงือกให้พ้นจากการโดนแสง เว้นไว้เพียงบริเวณผิวหน้าของฟันที่ต้องการฟอกสีฟันเท่านั้น จากนั้นทันตแพทย์จะทาเจลที่ได้ออกแลลมาให้เพื่อทำงานควบคู่กับแสงจากเครื่อง Zoom! เพื่อกระตุ้นให้เจลแตกตัวและปล่อยสารที่มีคุณสมบัติกำจัดสีซึมผ่านเข้าไปในเนื้อฟัน เพื่อฟอกสีฟันให้ขาวขึ้น ผลของการฟอกสีฟันนี้ จะคงอยู่ไ้นานเท่าใด ขึ้นอยู่กับการดูแลฟันหลังจากฟอกสี โดยเฉลี่ยนแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี

การฟอกฟันขาวด้วยระบบ ZOOM ทั้งรวดเร็วและสะดวกสบาย คงความขาวได้นาน เสียวฟันไม่มาก (หากมีอาการเสียวมักเป็นชั่วคราวไม่เกิน 1 วันค่ะ) นอกจากนี้ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อโครงสร้างของฟัน และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทุกขั้นตอนการรักษาทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วยค่ะ

คำถามที่ถูกถามบ่อย (FAQ)

ฟอกสีฟัน สามารถทำได้เมื่ออายุเท่าไหร่
ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป แต่ผลของการฟอกจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิม และเวลาที่ใช้ทำการฟอกโดยทันตแพทย์ของท่านจะตรวจและให้คำแนะนำได้

ฟอกสีฟันปลอดภัยหรือไม่
ปลอดภัยแน่นอน จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยที่ได้รีบการยอมรับทั่วโลกพิสูจน์แล้วว่า การฟอกสีฟันภายใต้การแนะนำดูแลของทันตแพทย์นั้นปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ทำในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี และในสตรีมีครรภ์ หรืออยู่ระหว่างการให้นมบุตร

มีผลข้างเคียงไหม
บางคนอาจมีอาการเสียวฟันได้ แสงจาก ZOOM! อาจจะทำให้อุ่นเล็กน้อย

หลังฟอกจะขาวนานไหม
หลังฟอกแล้วผลจะอยู่ได้นาน ตราบเท่าที่คุณคอยดูแลฟันเป็นอย่างดี และปฎิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ อย่างไรก็ตามสามารถทำ Touch Up เพื่อให้ฟันของคุณขาวอยู่เสมอด้วย DayWhite หรือ NiteWhite ก็จะยิ่งทำให้ฟันของคุณขาวตลอดเวลา

ฟอกที่คลินิกใช้เวลาทำนานแค่ไหน
ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ในการฟอกสีฟัน โดยจะใช้เวลาเล็กน้อยในการปกปิดเนื้อเยื่อต่างๆ รอบปากและใช้เวลาที่ใช้ฉายแสงอีก 45 นาที

 

^